ในวันนี้ (25 มิ.ย.63) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 5 เข้าร่วมสอบสวนปากคำ น.ส.เจษฎาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และ นายอธิบดี (สงวนนามสกุล) แฟนหนุ่ม อายุ 31 ปี ชาว ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ สองผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ,ลักทรัพย์นายจ้างและรับของโจร หลังร่วมกันขโมยข้อมูลบัญชีธนาคารของนายจ้าง และโอนเงินไปเข้าบัญชีของตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อดังมากกว่า 115 ครั้ง ซึ่งเหตุเกิดระหว่างวันที่ 19 เม.ย.- 11 มิ.ย. 63 ได้เงินไปกว่า 3,975,841 บาท
ต่อมาชุดสืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าจับกุม น.ส.เจษฎาภรณ์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 ขณะกำลังทำงานอยู่ในบริษัท ส่วนนายอธิบดีแฟนหนุ่มได้ติดต่อเข้ามอบตัวแล้ว
ในชั้นสอบสวน น.ส.เจษฎาภรณ์ รับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายอธิบดีก่อเหตุลักทรัพย์ โดยขณะที่ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชีจนได้รับความไว้วางใจจากนายจ้าง ทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของนายจ้างเกือบทั้งหมด จึงอาศัยช่องทางนี้แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลบัญชีของนายจ้าง โดยอ้างกับทางธนาคารว่าลืมรหัสผ่านในการทำธุรกรรมธนาคารผ่านระบบออนไลน์ พร้อมกับแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารสอบถาม ทั้งหมายเลขบัตรประชาชนและหลักฐานต่างๆ ที่ผูกกับบัญชีเมื่อได้รหัสผ่านใหม่ จึงเริ่มโอนเงินออกจากบัญชีนายจ้างเข้ามาในบัญชีของตนเอง และนายอธิบดีแฟนหนุ่มหลายครั้ง ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้จ่าย ชำระหนี้สิน บางส่วนใช้เล่นการพนันออนไลน์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติของ น.ส.เจษฎาภรณ์พบว่าเคยเป็นพนักงานธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง จึงทำให้ทราบขั้นตอนในการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล หลังจากนี้จะสอบสวนขยายผลว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อนหรือไม่
สำหรับคดีนี้นางภิมทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ ว่าได้ถูกคนร้ายโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของตนเองหลายครั้ง เป็นเงินเกือบ 4 ล้านบาท เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบเป็นการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่น และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นลูกจ้างของบริษัท
"รหัสผ่าน" - Google News
June 25, 2020 at 06:24PM
https://ift.tt/2Z8bWnX
สารภาพสิ้น ฉกเงินนายจ้างโอนผ่านแอปฯเกือบ 4 ล้าน - ช่อง 7
"รหัสผ่าน" - Google News
https://ift.tt/3gN8iru
No comments:
Post a Comment